ส่วนที่เป็นแป้งทอดสองตัวติดกันนั้น คนจีนเรียกว่า อิ๊วจาไกว่ ซึ่งเป็นสำเนียงชาวกวางตุ้ง ที่เป็นพวกแรกที่ทำขายในเมืองไทย ในปัจจุบันก็กลายเป็นปาท่องโก๋ ส่วนอิ๊วจาไกว่ ในปัจจุบันก็กลายเป็น อิ๊วจาก๊วย สมัยแรกขนมสองอย่างนี้รองขายรวมๆกัน เป็นเหตุให้คนไทยเข้าใจผิดเรียก อิ๊วจาไกว่เป็นปาท่องโก๋
เหตุที่ทำอิ๊วจาไกว่เป็นสองตัวติดกันนั้น มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า ในสมัยพระเจ้าซ้องยิ่งจง มีทหารคนนึงชื่อ งักฮุย เป็นคนรักชาติยิ่งชีพ สมกับที่แม่ของเขาสักไว้กลางหลังตั้งแต่เป็นเด็กว่า จิ้นตงป้อก๊ก หมายความว่า ให้รับใช้ประเทศชาติด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แม้ตัวตายก็อย่าเสียดายชีวิต
ครั่งหนึ่งเมืองฮวน (หมายถึงพวกอนารยชน – แอดมิน) ให้กิมงึดตุ๊ดเป็นแม่ทัพยกมาตีประเทศจีน พระเจ้าซ้องยิ่งจงจึงส่งงักฮุยออกไปป้องกันประเทศ งักฮุยสามารถตรึงกองทัพฮวนไว้ได้ กิมงึดตุ๊ดจึงคิดอุบายจะให้งักฮุยพ้นจากตำแหน่ง เวลานั้นอำนาจปกครองอยู่ในมือของชิงไกว่ ซึ่งมีลูกสาวได้เป็นกุยฮุย (ชื่อตำแหน่งพระสนม – แอดมิน) ของพระเจ้าซ้องยิ่งจง กิมงึดตุ๊ดสืบทราบมาว่าชิงไกว่ กับภรรยาเป็นคนโลภ ก็ส่งเงินทองข้าวของมาให้ และในที่สุดได้บอกว่า ถ้าทำให้พระเจ้าซ้องยิ่งจงเรียกงักฮุยกลับไปเมืองหลวงได้แล้ว จะเพิ่มข้าวของเงินทองมาให้อีก
ชิงไกว่กับภรรยาเห็นข้าวของเงินทอง สำคัญกว่าชาติบ้านเมือง ก็ไปแนะนำกุยฮุยลูกสาวให้ทำหนังสือเรียกตัวงักฮุยเข้ามาเมืองหลวงรวมไปกับหนังสือราชการอื่นๆ ให้พระเจ้าซ้องยิ่งจงประทับพระราชลัญจกรโดยที่ไม่ได้ทรงอ่านข้อความ งักฮุยเมื่อได้รับหนังสือก็งง เพราะการศึกกำลังพัวพันกันอยู่ แต่เมื่อพระราชโองการเรียกหาก็ต้องมาเฝ้า ครั้นมาถึงเมืองหลวง ชิ่งไกว่ก็ทูลฟ้องว่างักฮัยรับสินบนจากพวกฮวนแล้วหนีเข้ามา พระเจ้าซ้องยิ่งจงหลงเชื่อว่าเป็นจริง รับสั่งให้ประหารชีวิต
ข่าวการประหารงักฮุยแพร่ออกไป ประชาชนพากันร้องไห้ เสียดายและสงสาร เพราะไม่เชื่อว่างักฮุยจะทรยศต่อบ้านเกิดเมืองนอนเช่นนั้น และเชื่อว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีของชิงไกว่ แต่ก็ทำอะไรชิงไกว่ ไม่ได้ ในที่สุดก็หันมาสาบแช่ง ด้วยการเอาแป้งหมี่มาปั้นเป็นรูปชิงไกว่และภรรยา แล้วเอาลงทอดน้ำมันแล้วสาบแช่งให้ตกนรกทองแดง เมื่อแป้งสุกดีแล้วก็เอามากัดกินด้วยความโกรธ
ด้วยเหตุนี้จึงเรียกแป้งทอดน้ำมันที่ทำเป็นสองตัวติดกันนั้นว่า อิ๊วจาไกว่ คำว่าอิ๊วแปลว่าน้ำมัน จาแปลว่าทอด ไกว่คือชื่อของชิ่งไกว่ ขุนนางทรยศ ในชั้นแรก การทำอิ๊วจาไกว่ ทำเพื่อสาบแช่งชิงไกว่และภรรยา แต่เมื่อกินแล้วอร่อยจึงได้ทำสืบมา
จากหนังสือ เรื่องข้างสำรับ โดย ส.พลายน้อย
จากสถานการณ์บ้านเมืองเราหลายปีผ่านมานี้ หาขุนน้ำขุนนางดีทำน้ำยายากเย็นเหลือเกิน ถ้าจะให้ทำขนมสาบแช่ง คาดว่าน่าจะมีมากมายหลายโหลขนมละครับ
รูปประกอบ จากร้านน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ละแวกโรงเรียนปริ้นซ์รอยแยล ซึ่งอยู่ในหน้ารีวิวร้านแล้วครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น